Digital Transformation กำลังเป็นกระแสที่ทุก ๆ องค์กรจะต้องนำมาใช้ในการปรับเปลี่ยนองค์กรไปสู่องค์กรดิจิทัลแบบเต็มตัว เพราะหลาย ๆ ปัจจัยในองค์กรกำลังถูกเปลี่ยนถ่ายไปสู่ระบบดิจิทัลมากขึ้น เช่น ระบบการบริหารจัดการ ระบบการเงิน บัญชี หรือระบบเอกสารเองก็กำลังเปลี่ยนผ่านจากระบบ Paper ไปสู่ระบบ Digital
“ทำไมองค์กรจะต้อง Transformation ไปสู่ระบบ Digital” จริง ๆ แล้วหลายอย่างรอบตัวเราก็มีปรับเปลี่ยนเป็นระบบ Digital กันแล้วโดยที่เราอาจไม่ทันสังเกต เช่น ในการฟังเพลงที่ปรับเปลี่ยนมาเป็นระบบ Digital อย่างแผ่นซีดีก็มีผลตอบรับไปในทางที่ดีมาก ผู้ฟังปรับเปลี่ยนไปสู่ระบบ Digital อย่างรวดเร็ว นั่นก็เพราะระบบ Digital มีความง่ายในการเข้าถึง และตอบโจทย์ผู้ฟังเป็นอย่างมาก ซึ่งตัวอย่างนี้ก็แสดงให้เห็นว่าการ Transformation ไปสู่ระบบ Digital นั้นสำคัญเพียงใด หากองค์กรใดไม่มีการปรับเปลี่ยนตัวเอง ก็อาจเหมือนเทปคาสเซ็ตที่ถูกทิ้งไว้กับอดีต
ก่อนที่จะทำการ Transformation องค์กรไปสู่ระบบ Digital ให้สำเร็จได้นั้น จะต้องได้รับการพิจารณาเรื่องที่สำคัญอยู่ 3 เรื่อง คือ
- Customer Experience หรือ ประสบการณ์ของลูกค้า คือส่วนที่ลูกค้าจะได้รับจากองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อสื่อสาร การทำธุรกิจร่วมกัน จนไปถึงการส่งมอบสินค้าและบริการ
- Operational Processes หรือ กระบวนการปฏิบัติงาน คือส่วนที่เป็นกระบวนการการดำเนินงานที่นำเอาเทคโนโลยี Digital เข้ามามีส่วนช่วยหลักในการทำงาน ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญมาก เพราะในส่วนนี้จะเป็นตัวกำหนดว่าจะต้องใช้เครื่องมือชนิดใดเพื่อเข้ามาปรับเปลี่ยนการดำเนินงานไปสู่ระบบ Digital
- Business Models หรือ โมเดลธุรกิจใหม่ เกิดจากการนำประสบการณ์ของลูกค้า และกระบวนการปฏิบัติงานมาพัฒนาเป็นโมเดลธุรกิจใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบ Digital
หลังจากที่องค์กรพิจารณาที่จะทำ Digital Transformation เพื่อปรับเปลี่ยนระบบในองค์กรแล้ว ก็จะมาดูขั้นตอนในการที่จะเริ่มทำการ Transformation ซึ่งได้แก่
1. ปรับบุคลากรให้พร้อมสำหรับการทำ Digital Transformation
เพราะบุคลากรคือส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร และบุคลากรก็เป็นส่วนที่ยากที่สุดในการเปลี่ยนแปลงการทำงาน ดังนั้นกระบวนการสำคัญที่จะปรับความพร้อมให้กับบุคลากรจะแบ่งออกเป็นดังนี้
- สร้างให้บุคลากรมีความพร้อมที่จะเปลี่ยนไปสู่องค์กร Digital โดยหากกระบวนการนี้สามารถทำได้สำเร็จอย่างรวดเร็ว ก็จะทำให้การทำ Digital Transformation สำเร็จได้เร็วขึ้นกว่าที่กำหนด
- สร้างกรอบความคิดให้กับบุคลากรในองค์กรให้พร้อมที่จะเปลี่ยนไปสู่องค์กร Digital
- สร้าง Skill ให้กับบุคลากรควบคู่กับการเปลี่ยนไปสู่องค์กร Digital ซึ่งในกระบวนการนี้อาจต้องใช้เวลาในการศึกษาของบุคลากร แต่หากองค์กรต้องการเพิ่มความสามารถให้กับบุคลากร อาจต้องมีรางวัลบางอย่างเพื่อเพิ่มแรงจูงใจให้กับบุคลากรมากยิ่งขึ้น
2. ปรับสภาพแวดล้อมในการทำงานให้พร้อมสำหรับการทำ Digital Transformation
โดยสภาพแวดล้อมนั้นจะนับรวมไปถึงกระบวนการทำงานต่าง ๆ เช่น การปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานในองค์กร หรือในแผนกย่อย โดยกระบวนการทำงานใหม่จะต้องสอดคล้องกับหลักการทำ Digital Transformation
3. การนำดิจิทัลเข้ามาในธุรกิจ หรือ Digitize Business
ซึ่งก็คือการนำเอาระบบ Digital เข้ามาปรับใช้ในองค์กรจริง โดยในขั้นตอนนี้เกือบทุกกระบวนการทำงานจะเปลี่ยนเป็นระบบดิจิทัลทั้งสิ้น เช่น ระบบเอกสาร ก็จะมี e-document เข้ามาแทนการใช้กระดาษ ระบบการบันทึกข้อมูล ก็จะมีระบบ Cloud เข้ามาทำงานแทน เป็นต้น
จะเห็นว่าหากองค์กรปฏิบัติครบทั้ง 3 กระบวนการ การ Transformation ไปสู่ระบบ Digital นั้น ก็จะสำเร็จได้อย่างสมบูรณ์ แล้วหากองค์กรขับเคลื่อนด้วยระบบดิจิทัลอย่างเต็มตัวแล้ว จะมีผลดีอย่างไรบ้าง เราลองมาดูตัวอย่างข้อดีของการทำ Digital Transformation กัน
- ลดขั้นตอนในการทำงาน เพราะเมื่อข้อมูลถูกปรับให้อยู่ในรูปแบบ Digital แล้ว การเข้าถึงข้อมูลก็จะง่าย รวดเร็ว และสะดวกยิ่งขึ้น
- การเข้าถึงข้อมูล และเอกสารจะรวดเร็วขึ้น เพราะทุกอย่างจะเก็บไว้บนระบบ Cloud นั่นหมายความว่าบุคลากรที่มีสิทธิ จะสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทุกเวลา และสามารถทำงานจากที่ใดก็ได้เช่นกัน
- เพิ่มความรวดเร็ว และความปลอดภัยให้เอกสารเก่า เป็นอีกหนึ่งข้อดีของการใช้ระบบ Digital ที่จะมีการ Backup ข้อมูลไว้อยู่เสมอ ซึ่งหากเอกสารเก่ามีอยู่มาก ก็อาจสร้าง Database เข้ามาช่วยบริหารจัดการข้อมูลได้อีกทาง
- เพิ่มความถูกต้อง และแม่นยำในการทำงาน นั่นก็เพราะระบบ Digital จะมีเครื่องมือต่างๆ ที่ช่วยในการประมวลผล หรือการตรวจสอบข้อผิดพลาด จึงทำให้ลดการผิดพลาดของข้อมูลได้อีกหลายเท่าตัว
- ประหยัดค่าใช้จ่าย ซึ่งหากจะให้เห็นภาพชัด ๆ เราอาจมองที่ระบบ Paperless ที่ไม่ต้องใช้กระดาษอีกแล้ว จึงทำให้ลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น กระดาษ หมึก ค่าเช่าพื้นที่เพื่อเก็บเอกสาร เป็นต้น
- เพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจ นั่นก็เพราะระบบ Digital มีการเข้าถึงข้อมูลที่ง่าย ทำให้ผู้มีอำนาจสามารถเรียกข้อมูลทั้งหมดมาดู และวิเคราะห์ได้ในเวลาอันรวดเร็ว
- สร้างมาตรฐาน และความน่าเชื่อถือให้กับองค์กร
จากประโยชน์ของการทำ Digital Transformation ยังมีข้อดีอื่น ๆ อีกมากมายหลายข้อ ซึ่งด้วยเหตุผลเหล่านี้ทำให้หลาย ๆ องค์กรปรับมาใช้เป็นระบบ Digital มากกันขึ้นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่ ขนาดกลาง หรือขนาดเล็กก็ตาม
งั้นเรามาดูกันว่าตอนนี้มีบริษัทใดที่ทำ Digital Transformation กันแล้วบ้าง
Minor Group
ผู้นำในธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และสินค้าแฟชั่น
Vanachai Group
ผู้บุกเบิกในธุรกิจแผ่นไม้ทดแทนไม้ธรรมชาติ
Deestone
กูรูเรื่องยางรถยนต์
Flash express
ผู้ให้บริการด้าน e-commerce แบบครบวงจร
L’oreal
แบรนด์เครื่องสำอางระดับโลก
Advice
บริษัทจำหน่อยปลีก-ส่ง สินค้าไอทีและสมาร์ทโฟนที่มีหน้าร้านกว่า 333 สาขา
PEA
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
MEA
การไฟฟ้านครหลวง
กสทช.
องค์กรกำกับดูแลและพัฒนากิจการสื่อสารของประเทศไทย
ดังนั้นการทำ Digital Transformation ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ และเร่งด่วนเป็นอย่างมากในการปรับเปลี่ยนไปสู่องค์กรดิจิทัล ซึ่งหากองค์กรใดตัดสินใจยังไม่ทำ หรือเริ่มช้า ก็อาจส่งผลให้โดนธุรกิจคู่แข่งแย่งลูกค้าไปจนหมด หรือเลวร้ายที่สุดก็อาจต้องยกเลิกกิจการไปเลยก็ได้
ที่มา: www.enterprisersproject.com