You are currently viewing กฎหมายเกี่ยวกับลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์จากทั่วโลก

กฎหมายเกี่ยวกับลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์จากทั่วโลก

กฎหมายเกี่ยวกับลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์จากทั่วโลก

     กฎหมายลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัย และความสะดวกในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้การดำเนินงานทั้งในภาคธุรกิจและภาครัฐเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใส นอกจากนี้ ยังช่วยสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในระยะยาว
 

กฎหมายลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ทั้ง 3 ประเภทจากทั่วโลก

     กฎหมายที่รองรับลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกมีหลายฉบับที่สำคัญ และมีอิทธิพลในด้านการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ต่อไปนี้คือกฎหมายสำคัญสามฉบับที่ควรรู้จัก

  1. eIDAS (Electronic Identification and Trust Services) ของสหภาพยุโรป

รายละเอียด

  • eIDAS เป็นกฎหมายของสหภาพยุโรปที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2016
  • วัตถุประสงค์หลัก คือ เพื่อให้การระบุตัวตนและบริการที่เชื่อถือได้สำหรับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มีมาตรฐานและการยอมรับในทุกประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรป
  • แบ่งลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ออกเป็น 3 ประเภท คือ ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ธรรมดา (Electronic Signatures), ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง (Advanced Electronic Signatures), และลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ที่มีคุณสมบัติครบถ้วน (Qualified Electronic Signatures)
  • ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนจะได้รับการยอมรับว่าเป็นลายเซ็นที่ถูกต้องทางกฎหมายเช่นเดียวกับลายเซ็นที่เขียนด้วยมือ

ข้อดี

  • ช่วยให้การทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างประเทศในสหภาพยุโรปมีความปลอดภัยและเชื่อถือได้

ลดความยุ่งยากในการทำธุรกรรมข้ามพรมแดน

  1. ESIGN Act (Electronic Signatures in Global and National Commerce Act) ของสหรัฐอเมริกา

รายละเอียด

  • ESIGN Act ได้รับการลงนามเป็นกฎหมายเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2000
  • กำหนดให้ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์มีผลทางกฎหมายเทียบเท่ากับลายเซ็นที่เขียนด้วยมือในธุรกรรมทางการค้าและกฎหมาย
  • กฎหมายนี้ครอบคลุมถึงธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ในภาคธุรกิจต่างๆ รวมถึงการทำสัญญา การลงนามในเอกสาร และการทำธุรกรรมทางการเงิน

ข้อดี

  • ส่งเสริมการใช้ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ในการทำธุรกรรมทางธุรกิจและการค้า
  • เพิ่มความสะดวกและความรวดเร็วในการดำเนินการทางกฎหมายและการค้าผ่านช่องทางดิจิทัล
  1. พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 ของประเทศไทย

รายละเอียด

  • พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 ของประเทศไทย ได้รับการประกาศใช้เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2544
  • กำหนดให้ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์มีผลทางกฎหมายเช่นเดียวกับลายเซ็นที่เขียนด้วยมือ
  • กฎหมายนี้รองรับการใช้ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ในธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น การทำสัญญา การยื่นเอกสารราชการ และการทำธุรกรรมทางการเงิน

ข้อดี

  • ช่วยส่งเสริมการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทยให้มีความสะดวกและปลอดภัย
  • รองรับการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมดิจิทัลในภาคธุรกิจและภาครัฐ

     ดังนั้น กฎหมายทั้งสามฉบับนี้มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและรองรับการใช้ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก แต่ละกฎหมายมีลักษณะเฉพาะและข้อกำหนดที่เหมาะสมกับบริบทของแต่ละประเทศหรือภูมิภาคนั้นๆ

กฎหมายลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ใน 14 ประเทศ
 
     กฎหมายลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์มีการบังคับใช้ในหลายประเทศทั่วโลก โดยแต่ละประเทศมีการกำหนดกฎหมายและข้อบังคับที่แตกต่างกันไปตามบริบทของประเทศนั้นๆ ต่อไปนี้คือกฎหมายลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ใน 14 ประเทศ ดังนี้
  1. สหรัฐอเมริกา

กฎหมายหลัก : ESIGN Act (Electronic Signatures in Global and National Commerce Act) 2000

รายละเอียด : กำหนดให้ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์มีผลทางกฎหมายเทียบเท่ากับลายเซ็นที่เขียนด้วยมือ

  1. สหภาพยุโรป

กฎหมายหลัก : eIDAS Regulation (Electronic Identification and Trust Services) 2016

รายละเอียด : กำหนดมาตรฐานและการยอมรับลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ในทุกประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรป

  1. สหราชอาณาจักร

กฎหมายหลัก : Electronic Communications Act 2000

รายละเอียด : กำหนดให้ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์มีผลทางกฎหมายและได้รับการยอมรับในศาล

  1. แคนาดา

กฎหมายหลัก : Personal Information Protection and Electronic Documents Act (PIPEDA) 2000

รายละเอียด : ยอมรับลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ในธุรกรรมทางการค้าและกฎหมาย

  1. ออสเตรเลีย

กฎหมายหลัก : Electronic Transactions Act 1999

รายละเอียด : กำหนดให้ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์มีผลทางกฎหมายในธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

  1. สิงคโปร์

กฎหมายหลัก : Electronic Transactions Act 2010

รายละเอียด : ยอมรับลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์และกำหนดมาตรฐานการใช้ในธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

  1. ญี่ปุ่น

กฎหมายหลัก : Act on Electronic Signatures and Certification Business 2001

รายละเอียด : กำหนดให้ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์มีผลทางกฎหมายและกำหนดข้อบังคับเกี่ยวกับการใช้

  1. เกาหลีใต้

กฎหมายหลัก : Digital Signature Act 1999

รายละเอียด : ยอมรับลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์และกำหนดมาตรฐานการใช้ในธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

  1. อินเดีย

กฎหมายหลัก : Information Technology Act 2000

รายละเอียด : กำหนดให้ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์มีผลทางกฎหมายและได้รับการยอมรับในศาล

  1. จีน

กฎหมายหลัก : Electronic Signature Law 2005

รายละเอียด : ยอมรับลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์และกำหนดมาตรฐานการใช้ในธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

  1. บราซิล

กฎหมายหลัก : Provisional Measure No. 2,200-2 2001

รายละเอียด : กำหนดให้ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์มีผลทางกฎหมายและกำหนดข้อบังคับเกี่ยวกับการใช้

  1. เม็กซิโก

กฎหมายหลัก : Código de Comercio (Commercial Code) 2003

รายละเอียด : ยอมรับลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ในธุรกรรมทางการค้าและกฎหมาย

  1. รัสเซีย

กฎหมายหลัก : Federal Law No. 63-FZ on Electronic Signature 2011

รายละเอียด : กำหนดให้ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์มีผลทางกฎหมายและกำหนดมาตรฐานการใช้

  1. ไทย

กฎหมายหลัก : พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544

รายละเอียด : กำหนดให้ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์มีผลทางกฎหมายและได้รับการยอมรับในศาล

สรุปได้ว่า

     การมีกฎหมายลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ หรือการเซ็นออนไลน์ ในประเทศต่างๆ นี้ ช่วยส่งเสริมการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ให้มีความน่าเชื่อถือ ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและลดการใช้กระดาษในธุรกรรมต่างๆ อีกด้วย